เมโสแฟต (Meso Fat) คืออะไร?
เมโสแฟต (Meso Fat) เป็นการฉีดเพื่อลดไขมันในร่างกายโดยเฉพาะจุด โดยใช้ตัวยาที่มีคุณสมบัติในการสลายไขมัน ซึ่งจะถูกฉีดเข้าสู่ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง กระตุ้นให้เซลล์ไขมันแตกตัวหรือเร่งกระบวนการเผาผลาญในร่างกาย ทำให้ไขมันถูกดึงออกจากเซลล์และขับออกจากร่างกายผ่านการหายใจและระบบขับถ่าย เมื่อฉีดเมโสแฟตไปสักระยะ บริเวณที่ฉีดจะเริ่มยุบลง ชั้นไขมันบางลง และสัดส่วนดูกระชับขึ้น
ตัวยาเมโสแฟต (Meso Fat) มีอะไรบ้างและทำงานอย่างไร?
ในปัจจุบัน เมโสแฟตมีหลากหลายยี่ห้อให้เลือกใช้ในคลินิกเสริมความงาม ซึ่งแต่ละยี่ห้อจะมีส่วนประกอบที่แตกต่างกันไป แต่หลักการทำงานจะคล้ายกัน โดยตัวยาหลักในเมโสแฟตจะเป็นสารที่ช่วยเร่งการสลายไขมันหรือทำให้เซลล์ไขมันแตกตัว ส่งผลให้บริเวณที่ฉีดดูยุบลงและเล็กลงได้
เมื่อฉีดเมโสแฟตเข้าสู่บริเวณที่มีไขมันสะสม เช่น แก้ม ใต้คาง เหนียง ต้นขา ต้นแขน สะโพก และหน้าท้อง ตัวยาจะทำงานโดยเข้าไปกระตุ้นเซลล์ไขมันให้แตกตัว ดึงไขมันออกจากเซลล์ และเร่งการเผาผลาญ ลดการสะสมไขมันใหม่ ไขมันที่ถูกสลายจะถูกขับออกจากร่างกายผ่านการหายใจและระบบขับถ่าย ส่งผลให้บริเวณที่ฉีดดูกระชับและเรียบเนียนขึ้น
เมโสแฟต (Meso Fat) ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
ลดไขมันบริเวณแก้มและใต้คาง ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น
ลดไขมันส่วนเกินตามร่างกาย เช่น ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง และสะโพก ให้กระชับขึ้น
ยกกระชับบริเวณที่ไขมันลดลง ให้ดูเฟิร์มและไม่หย่อนคล้อย
ตำแหน่งที่สามารถฉีดเมโสแฟต (Meso Fat) ได้:
- แก้ม และชั้นไขมันใต้คาง (เหนียง)
- หน้าท้อง
- สะโพก
- ต้นแขน และท้องแขน
- ต้นขาด้านในและด้านนอก
- บริเวณรักแร้ และปีกหลัง
ทั้งนี้ทาง Soleil Clinic แนะนำให้ฉีดเมโสแฟตที่ 2 จุดดังนี้ เพราะเห็นผลชัดเจนกว่าการฉีดเมโสแฟตบริเวณตัว
1. การฉีดแฟตบริเวณแก้ม
การฉีดเมโสแฟตบริเวณแก้มเป็นที่นิยมมาก เพราะช่วยลดแก้มเยอะๆ ทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น เหมาะสำหรับคนที่รู้สึกว่าใบหน้าดูกลมหรืออ้วน โดยจุดที่ฉีดจะเน้นบริเวณที่มีไขมันสะสมมาก ผลลัพธ์อาจไม่ถาวร เนื่องจากการฉีดเมโสแฟตเป็นการใช้ปฏิกิริยาเคมีเพื่อสลายไขมันออกจากเซลล์ ไขมันอาจกลับมาได้ถ้าพฤติกรรมการกินหรือการออกกำลังกายไม่เปลี่ยนแปลง ในกรณีที่มีปัญหากล้ามเนื้อกรามเด่นเกินไป (เราสามารถเช็คดูว่าเมื่อกัดฟัน) หมออาจแนะนำให้ทำโบท็อกกรามร่วมด้วย เนื่องจากการฉีดโบท็อกจะช่วยให้กรามดูเล็กลง ทำให้บริเวณแก้มส่วนที่ติดกับกรามลดลงตามไปด้วย
2. การฉีดแฟตบริเวณเหนียง
เหนียงใต้คางมักเกิดจากการสะสมของไขมันใต้ผิวหนัง เมื่ออายุมากขึ้นหรือมีน้ำหนักเกิน ไขมันจะสะสมที่ใต้คางจนเห็นเป็นเหนียงหรือคางสองชั้น แม้แต่คนที่ผอมก็สามารถมีเหนียงได้จากพฤติกรรมต่างๆ เช่น การทานโซเดียมสูง การดื่มแอลกอฮอล์ หรือกรรมพันธุ์ สำหรับคนที่มีไขมันแก้มและเหนียงเยอะ จะใช้การฉีดเมโสแฟตเพื่อช่วยลดไขมันก่อนเพราะมีราคาถูกกว่าและสามารถกำจัดเซลล์ไขมันได้โดยตรง และหลังจากนั้นจึงทำ Ultraformer MPT เพื่อกระชับผิวให้แน่นขึ้นได้
ข้อดีข้อเสียของการฉีดเมโสแฟตต่างกันอย่างไร
ข้อดีของการฉีดเมโสแฟต
- เป็นวิธีที่ปลอดภัย ใช้เวลาทำไม่นาน และสามารถกลับบ้านได้ทันที โดยไม่ต้องพักฟื้น
- การเตรียมตัวไม่ยุ่งยาก หลังทำสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ
- เห็นผลเร็ว และสามารถทำซ้ำได้หากต้องการผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
- ลดไขมันได้ประมาณ 10-15% ต่อครั้ง
- สามารถฉีดได้หลายตำแหน่งที่มีไขมันสะสมโดยไม่ส่งผลกระทบต่อเส้นเลือดและเส้นประสาท
- ไม่มีรอยแผลหรือรอยผ่าตัด
- ราคาไม่แพง สามารถทำได้หลายครั้งตามงบประมาณ
ข้อเสียของการฉีดเมโสแฟต
- หลังฉีดอาจมีอาการบวมตามปริมาตรของยา ซึ่งจะลดลงเองใน 3-4 ชั่วโมง
- ไม่เห็นผลทันที ต้องรอประมาณ 1-2 สัปดาห์จึงจะเห็นผลลัพธ์
- การลดไขมันด้วยเมโสแฟตอาจไม่เห็นผลชัดเจนในกรณีที่มีไขมันสะสมมาก อาจต้องทำซ้ำหลายครั้ง
- ผลลัพธ์ไม่ถาวร ต้องร่วมกับการออกกำลังกายและควบคุมอาหารเพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น
หลังฉีดเมโสแฟต จะเห็นผลเมื่อไหร่?
ผลลัพธ์ที่ชัดเจนจะเห็นภายใน 1-3 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับยี่ห้อเมโสแฟตและปริมาณที่ฉีด ไขมันจะลดลงประมาณ 10-15% ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันและพฤติกรรมการใช้ชีวิต หากต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้น ควรกลับมาฉีดซ้ำตามคำแนะนำของแพทย์
ฉีดเมโสแฟต (Meso Fat) กี่ครั้งถึงจะเห็นผล?
แต่ละคนมีปริมาณไขมันแตกต่างกันไป การฉีดเมโสแฟตจะเห็นผลได้ประมาณ 10-15% ต่อการฉีด 1 ครั้ง และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในช่วง 1-3 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับตัวยาที่ใช้ หากต้องการลดไขมันมากขึ้น สามารถทำการฉีดซ้ำได้หลังจาก 7 วัน
ฉีดเมโสแฟตอยู่ได้นานแค่ไหน?
เมโสแฟตช่วยลดไขมันเฉพาะที่ แต่ไม่สามารถป้องกันการสะสมของไขมันใหม่ หากไม่ควบคุมอาหารและออกกำลังกาย ไขมันอาจกลับมาได้ภายใน 1 เดือน แต่ถ้าควบคุมได้ดี ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานขึ้น